7 เทคนิคให้ผู้นำปลดล็อกศักยภาพทีม เพื่อเก่งไปพร้อมกัน!

หนึ่งในเคล็ดลับความสำเร็จ ของผู้นำระดับโลกที่มีเหมือน ๆ กัน คือไม่ใช่การเป็นคนที่เก่งเพียงลำพัง แต่คีย์สำคัญของผู้นำที่ดีคือการเก่งไปพร้อม ๆ กันกับทีม และดึงศักยภาพของทีมออกมาได้

Last updated on เม.ย. 21, 2024

Posted on เม.ย. 18, 2024

🤔 Satya Nadella - CEO ของ Microsoft
ผู้นำเทคโนโลยีบนคลาวด์ พลิกโฉมบริษัท Microsoft ให้กลับมายิ่งใหญ่อีกครั้ง เขายังมีบทบาทสำคัญในการเปลี่ยนแปลงวัฒนธรรมของบริษัท ทำให้การรับฟังปัญหา และการเสนอไอเดียใหม่ ๆ เปิดกว้างกับคนในองค์กร เกิดการร่วมมือเพื่อไปสู่เป้าหมายที่ยิ่งใหญ่

🤔 Tim Cook - CEO ของ Apple
เขาได้ดูแลช่วงเวลาแห่งการเติบโตทั้งในเชิงองค์กร คนทำงาน และนวัตกรรมอย่างต่อเนื่อง รวมถึงเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่จำนวนหนึ่งภายใต้การนำของ Cook ไม่ว่าจะ iPhone X, Apple Watch และ AirPods ซึ่งล้วนแล้วมาจากทีมที่เห็นเป้าหมายเดียวกัน คิดใหญ่ไปพร้อมกัน

🤔 Elon Musk - CEO ของ Tesla
หนึ่งในผู้ประกอบการที่มีนวัตกรรมและประสบความสำเร็จมากที่สุดในยุคปัจจุบัน เขาเป็นผู้ก่อตั้งและซีอีโอของ Tesla และ SpaceX โดย Elon Musk ถือเป็นผู้นำที่มีวิสัยทัศน์ ผลักดันขอบเขตของสิ่งที่เป็นไปได้อยู่ตลอดเวลา ดังนั้นเคมีการทำงานขององค์กรนี้คือคนที่ฝันใหญ่ เกิดการเรียนรู้ใหม่ ๆ อยู่เสมอ

ในบทความจาก Psychologytoday ของคุณ Megan Dalla-Camina ซึ่งเป็นผู้ก่อตั้งและซีอีโอของ Women Rising ได้พูดถึงคีย์หลักอย่าง Coach, Wisdom, Goals ในฐานะผู้นำที่ต้องการปลดล็อกศักยภาพของทีมงาน ทักษะที่สำคัญไม่ควรมองข้ามคือการ “Coach People Effectively” หรือการโค้ชทีมอย่างไรให้เกิดประสิทธิภาพ ทั้งในด้านพฤติกรรมคนทำงาน, ทักษะสกิลต่าง ๆ และการจะทำอย่างไรเพื่อให้ทีมเห็นเป้าหมายเพื่อทำให้สำเร็จ ซึ่งการจะโค้ชใครได้นั้นต้องอาศัยการฝึกฝน และพัฒนาทักษะใหม่ ๆ อยู่เสมอ

ผู้นำเก่งคนเดียวไม่ได้ แต่ต้องเก่งไปพร้อมกับทีม 7 เทคนิคปลดล็อกศักยภาพทีม ที่คุณเริ่มได้ทันที!

🎯 1. ผู้นำต้องเข้าใจจุดแข็งของแต่ละบุคคล

เพราะทุกคนมี Strengths ที่แตกต่างกัน การจะโค้ชใครสักคน เสมือนกับการมอบอาวุธติดตัวให้กับคนคนนั้น ถ้าทีมงานของเราเก่งการใช้ดาบ แต่คุณหยิบธนูให้ แสดงว่าคุณไม่รู้จุดแข็งของทีมงาน

สิ่งที่ผู้นำต้องทำเมื่อไม่รู้ คือต้องสละเวลาของตัวเอง เพื่อทำความเข้าใจจุดแข็งแต่ละคน และกระตุ้นให้เขาใช้จุดแข็ง หรือ Strengths เหล่านั้นเพื่อให้เกิดผลลัพธ์ที่ดีที่สุด โดยมีเราเป็นผู้สร้างสัมพันธ์อันดี ให้ขวัญกำลังใจ และการสนับสนุนพัฒนาความสามารถ หาให้เจอ ใช้เวลาอันมีค่าของเราลงไปใส่ใจกับทีมงาน รับรู้ว่าพวกเขาถนัดหรือมีจุดแข็งแบบไหน!


🎯 2. ผู้นำต้องฟังอย่างจริงใจ และจริงจัง

Actively Listen หรือการใส่ใจเพื่อรับฟังความกังวลใจของทีมงาน, แนวคิดใหม่ ๆ ของสมาชิกในทีม จะช่วยสร้างสภาพแวดล้อมที่เกิดความไว้วางใจ และความร่วมมือขึ้นได้

การฟังอย่างตั้งใจนั้นไม่ได้ช่วยแค่ตัวผู้นำที่จะเข้าใจลูกทีมได้ดีที่สุดเท่านั้น แต่ยังช่วยให้เข้าใจอย่างตรงประเด็นว่าสมาชิกในทีมตอนนี้กำลังอยู่ในขั้นตอนไหน ผู้นำเองก็คาดการณ์ได้ว่าเป้าหมายของเขาไม่ได้หลุดโฟกัสนะ และลูกทีมก็เกิดการยอมรับ มีคนให้คำปรึกษาในทุกเรื่อง เทคนิคที่ฝึกฝนได้ทันทีคือ ผู้นำต้องฝึกสรุปสิ่งที่ลูกทีมพูดอยู่เสมอ เพื่อให้แน่ใจว่าเรารับเขาอย่างจริงใจ และจริงจังในเวลาเดียวกัน


🎯 3. ผู้นำต้องกำหนดเป้าหมายที่ชัดเจน

อีกหนึ่งเรื่องที่ผู้นำมักตกม้าตาย คือการ ‘Set Clear Goals’ เพราะเป้าหมายที่ชัดเจนจะเป็นแผนที่นำทางไปสู่ความสำเร็จ การทำงานเป็นทีมที่เวิร์ก จุดเริ่มต้นคือการมีเป้าหมายที่เคลียร์ร่วมกัน

ซึ่งแน่นอนว่าระหว่างทางอาจจะมีการหารือร่วมกัน อันนั้นดี อันนั้นไม่ดี แต่เพื่อจัดการกับไอเดียอันมากมาย คือวัตถุประสงค์ของเราชัดเจนแล้วหรือยัง? ดังนั้นหน้าที่ของผู้นำคือต้องเป็นผู้เชื่อมโยงระหว่างเป้าหมาย และบทบาทหน้าที่ของแต่ละคนให้ชัดเจน อย่าให้ใครคนใดคนนึงในทีมไม่มีคุณค่า จงทำให้เขารู้สึกให้ได้ถึงคุณค่าในเป้าหมายที่ตัวเองได้รับมอบหมาย


🎯 4. ผู้นำต้องส่งเสริมการสื่อสารแบบเปิดกว้าง

การจะเป็นผู้นำที่ดีเรื่องของการสื่อสารสำคัญ และอีกเรื่องที่สำคัญที่ไม่แพ้กันคือการมีวัฒนธรรมองค์กรที่สามารถไว้ใจกันได้ (Encourage Open Communication) สามารถสื่อสารแบบเปิดกว้าง หากสงสัยหรืออยากสอบถาม ก็สามารถปรึกษา ให้ความคิดเห็น หรือมีข้อกังวลใจใด ๆ ก็สามารถเล่าให้ผู้นำฟังได้ ซึ่งสิ่งนี้จะเกิดขึ้นได้ผู้นำต้องสร้างพื้นที่ปลอดภัยให้กับองค์กรก่อนเสมอ และคุณต้องนำตัวเองลงไปรับฟังลูกทีมให้มากพอ รับฟังข้อเสนอ รับฟังไอเดีย หรือช่วยแก้ไขปัญหา และแบ่งปันเรื่องราวดี ๆ เพื่อสร้างแรงบันดาลใจให้ทีม ก็เป็นอีกหนึ่งทักษะการสื่อสารที่ช่วยให้ทีมเกิดไอเดียใหม่ ๆ ได้เช่นกัน


🎯 5. ผู้นำต้อง Feedback อย่างสร้างสรรค์

หัวใจสำคัญของการเป็นผู้นำคือต้องมองให้ออกว่า เราควรจะปรับปรุง หรือเพิ่มเติมให้กับลูกทีมในด้านไหนได้บ้าง โดยต้องกำหนดเป็นรายบุคคล ตัวอย่างเช่น บางครั้งเวลาเราเข้าประชุม มักจะเจอลูกทีมบางส่วนไม่เข้าใจภาพรวม หรือเนื้อหาเฉพาะทางที่เกิดขึ้น ทำให้การสื่อสารระหว่างผู้นำ กับลูกน้องเข้าใจไปคนละแบบ หน้าที่ของผู้นำคือการที่คุณต้องรู้ และตรวจสอบให้ได้ว่า ใครไม่เข้าใจตรงไหน หรือเปิดพื้นที่ให้ได้ Feedback กันอย่างตรงไปตรงมาเพื่อให้การทำงานต่อได้ ซึ่งวิธีนี้ยังช่วยให้ผู้นำงดการใช้อารมณ์ แต่ Feedback ในเชิงสร้างสรรค์แทน


🎯 6. ส่งเสริมการเรียนรู้อย่างต่อเนื่อง

การเรียนรู้ และอัปความรู้ใหม่ ๆ อยู่ตลอดเวลาคือรากฐานของวัฒนธรรมองค์กรที่ดี สิ่งสำคัญของผู้นำคือคุณจะมีวิธีการอย่างไรทำให้คนในทีมเกิดการเรียนรู้อยู่ตลอดเวลาอย่างแท้จริง บริษัทระดับโลกอย่าง Google มักจะสนับสนุนให้พนักงานได้เรียนรู้ในสิ่งที่รัก และเรียนรู้ในสิ่งที่ต้องทำเกี่ยวกับงาน นั่นเท่ากับ WinWin ทั้งองค์กรและพนักงานไปพร้อมกัน


🎯 7. สร้างคุณค่าให้กับการมอบหมายงานในทุกครั้ง

คงจะดีไม่น้อย ถ้าทุกงานที่เราทำมีคุณค่ากับใครบางคน หนึ่งในเทคนิคสำคัญของผู้นำคือ ‘Empower and Delegate’ เสมือนการเสริมพลังให้กับลูกทีมในทุก ๆ การมอบหมายงาน นอกจากความรับผิดชอบที่เขาต้องทำแล้ว ความไว้วางใจที่เรามอบให้ เพราะเชื่อว่าถ้าเป็นคนคนนี้จะทำงานนี้ออกมาสำเร็จได้ การเสริมความมั่นใจ เสริมคุณค่าให้กับงานที่เขาทำสำคัญมาก ยิ่งเราฝึกเรื่องนี้บ่อย ๆ ตัวคุณเองก็จะยิ่งเป็นคนเห็นคุณค่าของงาน และคุณค่าของลูกน้องในทีมมากขึ้น ปฏิบัติกับพวกเขาอย่างเท่าเทียม และส่งเสริมซึ่งกันและกันเพื่อเติบโตไปพร้อม ๆ กัน


หวังว่า 7 เทคนิคของผู้นำนี้ จะไม่ใช่เทคนิคในฝันอีกต่อไป แต่มันจะเกิดขึ้นจริงได้ เพียงแค่คุณเปลี่ยนแปลงลงมือทำ เพราะผู้นำ คือผู้ที่จะต้องเริ่มนำก่อนใคร!


แปล เรียบเรียง: กิตติภพ ปานล้ำเลิศ

ที่มา

trending trending sports recipe

Share on

Tags