ตอนนี้ TikTok เป็นตลาด Red Ocean มากขึ้น เพราะทุกวันนี้ TikTok มีแต่คนเข้ามาเยอะขึ้น ซึ่งก็ Red ในระดับแดงเดือด เพราะความแตกต่างคือตอนที่มี Facebook คนกระโดดเข้ามาในแพลตฟอร์มแบบไร้ความรู้
ทว่าในช่วงเวลาที่มี TikTok กลับกลายเป็นคนที่มีความรู้ในแพลตฟอร์มอื่นกระโดดเข้ามาแข่งขันกันกับคนที่มาแบบงู ๆ ปลา ๆ ซึ่งชาเลนจ์ของทุกคนจึงอยู่ที่ว่า 3 วินาทีแรกจะฮุคคนดูได้หรือเปล่า
รวม Insight Video ที่น่าสนใจ และความเป็นไปได้ในการทำรายได้ของครีเอเตอร์ในแพลตฟอร์ม TikTok
นอกจากนั้นแล้วปัญหาของ TikTok ก็เป็นการที่ครีเอเตอร์เยอะ แต่คนดูไม่เยอะตาม เพราะคนกระโดดเข้ามาในแพลตฟอร์มเยอะ และสิ่งที่น่ากลัวนอกจากความเฟ้อของครีเอเตอร์คือ ‘AI ที่กำลังจะกลายมาเป็นครีเอเตอร์’ เพราะตอนนี้ AI เดินมาถึงจุดที่มันฉลาดมาก แม้ว่ามันจะยังคุยด้วยจริตมนุษย์ไม่ได้ แต่ถ้าในภายภาคหน้า AI สามารถคุยด้วยจริตมนุษย์ได้ คนจะแยกยากขึ้น
แม้ว่าวิดีโอจะมีผู้แข่งขันเยอะ แต่สิ่งที่ยังคงทำรายได้มากกว่าคือการขายจากการไลฟ์ และเป็นสิ่งที่ในเวลาใกล้ ๆ เรายังไม่ต้องกลัว AI โดย ณ เวลานี้ AI ยังไม่สามารถปิดการขายได้ เพราะถ้า AI จะปิดการขายต้องใช้อารมณ์ของความเป็นมนุษย์
🎲 ทริคสำหรับคนทำคอนเทนต์บน TikTok โดยใช้ AI
ถ้าไม่รู้จะทำคอนเทนต์อะไร ลองนำคอนเทนต์บทความยาว ๆ มาใส่ใน AI
จากนั้นให้ AI สร้างออกมาเป็นสคริปต์วิดีโอ 10 คอนเทนต์
⚡ ปัญหาของการไลฟ์ขายของ
แม้ว่าตลาดงานไลฟ์จะน่าจับตา และสร้างรายได้มหาศาล แต่สิ่งที่น่ากลัวคือคนต่างชาติเข้ามาไลฟ์ขายของในประเทศ โดยว่ากันว่าการไลฟ์ในไทย 9 แสนครั้ง จะมีประมาณ 5 แสนไลฟ์ที่เป็นคนต่างชาติ ซึ่งถ้าเราเข้าใจแพลตฟอร์มน้อยกว่าคนต่างชาติ จะทำให้เม็ดเงินไหลไปนอกประเทศอย่างแน่นอน
ถ้าอยากเห็นภาพการไลฟ์ของอนาคตไทย ให้ไปศึกษาที่จีน เพราะเราจะพบว่าที่นั่นทุกบริษัทจะขายของด้วยการไลฟ์ และมีห้องไลฟ์เป็นของตัวเอง โดยในตอนนี้หลายแบรนด์ในไทยก็เริ่มที่จะสร้างห้องไลฟ์ใน Head Office ของตัวเองแล้ว
🌟 ทำไมตลาดไลฟ์สตรีมถึงน่าสนใจ
เพราะ Painpoint ของคนไทยคือ คนไทยขี้อายไม่กล้าออกกล้อง ดังนั้นแล้ว นักไลฟ์ในประเทศไทยจึงหายาก ซึ่งในอนาคตอาชีพนักไลฟ์จะน่าสนใจอย่างมาก เนื่องจาก TikTok เป็นโซเชียลมีเดียตัวเดียวที่มีสูตร และถ้าเรามี Check-list แล้วพูดตามลิสต์เหล่านั้นเวลาไลฟ์ ก็อาจทำให้แบรนด์สามารถ Hit the goal ได้
💫 คนถึงชอบซื้อของในไลฟ์เพราะอะไร
เพราะการไลฟ์สดเป็น Two-way Communication ซึ่งเป็นการปิดจุดที่ลูกค้าจะไม่ซื้อได้ในเดี๋ยวนั้น เพราะลูกค้าถามปุ๊บ แล้วไม่ต้องไปตามหาข้อมูลอะไรเองอีก โดยสำหรับในไทย แบรนด์ที่รู้จักการไลฟ์ขายของจึงมีโอกาสเติบโตขึ้น เพราะผู้ซื้อเรียนรู้ที่จะซื้อของแพงกันแล้ว
Painpoint ของหลายแบรนด์คือ อยากทำ TikTok แต่ไม่รู้จะทำยังไง ทว่าหลายแบรนด์สนแต่ยอดวิว ไม่สนการไลฟ์ทั้งที่ฝั่งไลฟ์สตรีม ไม่ค่อยมีตลาด Red Ocean ที่สามารถไลฟ์ได้อย่างมีคุณภาพ
🎯 วิดีโอสั้นสามารถมีช่องว่างให้ไปเล่นได้ไหม
แม้จะเป็นช่วงวิดีโอสั้นฮิต วิดีโอสั้นระบาดมากมาย แต่เมื่อเราไปดูที่แพลตฟอร์มที่ไม่ใช่ TikTok จะพบว่าหลายครั้ง แพลตฟอร์มยังส่งคลิปวิดีโอต่างชาติมาให้เราเห็น นั่นหมายความว่าวิดีโอสั้นในไทยยังมีคุณภาพ และจำนวนไม่มากพอ นั่นทำให้เรายังมีช่องว่างของวิดีโอสั้น ให้สามารถเติบโตในแพลตฟอร์มอื่น ที่ไม่ใช่ TikTok ได้
เมื่อก่อนแบรนด์มักโฟกัสแค่ลูกค้ากลุ่มเล็กใน TikTok แต่ในยุคนี้คนมีเงินเริ่มเข้ามา แบรนด์จึงเปลี่ยนไปโฟกัสกลุ่มใหญ่ และแบรนด์เริ่มเข้ามาใน TikTok เพราะอยากมีทีมอินเฮาส์เพื่อทำคอนเทนต์โดยเฉพาะ นั่นทำให้อนาคตอันใกล้ การไลฟ์จะเป็นสงครามระหว่าง แบรนด์ VS แบรนด์ VS ครีเอเตอร์
👉 สำหรับครีเอเตอร์ลองกลับมาถามตัวเองดูให้ดี เราจะทำยังไงให้แตกต่าง ไม่เหมือนเขา เพราะถ้าทำแล้วไม่มีความสุข และถ้าไม่เห็น TikTok เป็น 1st priority ก็อย่าทำเลย
ซึ่งถ้าใครอยากจะเริ่มทำ TikTok ต้องกล้าที่จะออกมาจากคอมฟอร์ตโซนเพราะสิ่งที่สำคัญที่สุดคือการกล้าลุก อย่าเพิ่งไปคิดเยอะ จริงอยู่ที่ว่า Red Ocean ของ TikTok มีจริง เพราะแพลตฟอร์มมัน Red Ocean มาก ๆ แต่เอาจริงมันเป็นตลาดใหญ่ของคนไม่มีคุณภาพที่แข่งกันอยู่ ซึ่งถ้าเราทำตัวเองให้มีคุณภาพ เราจะอยู่ในตลาดที่เฉพาะทางมากกว่าเดิม
ใครที่อยากรับชมแบบจัดเต็มสามารถซื้อบัตรรับชมย้อนหลังทุกเซสชันเพิ่มเติมได้ที่