มัดรวม 100 เรื่อง ที่คนทำงาน คนทำธุรกิจต้องรู้ จากงาน CTC2024 (Part.1)

Last updated on มิ.ย. 9, 2024

Posted on มิ.ย. 8, 2024

📌 #มัดรวม100เรื่อง ที่คนทำงาน คนทำธุรกิจต้องรู้ ในงาน AP Thailand presents CREATIVE TALK CONFERENCE 2024 “Creative Generation”

AP Thailand presents CREATIVE TALK CONFERENCE 2024 “Creative Generation” งานมหกรรมความรู้ที่จะพาทุกคนมาปลดล็อกทักษะความคิดสร้างสรรค์ ก็ได้จัดงานเมื่อวันแรกผ่านพ้นไปแล้ว และก็ได้มีเหล่าสปีคเกอร์กว่าครึ่งร้อย มาร่วมเปิดตัว ถ่ายทอดแนวคิด ติดอาวุธความรู้ เพื่อขับเคลื่อนความคิดสร้างสรรค์ ให้ธุรกิจยั่งยืน โดย CREATIVE TALK ก็ไม่พลาดที่จะนำ 100 บทเรียนจากสปีคเกอร์มาฝากคุณผู้อ่านกัน

1. “ความคิดสร้างสรรค์” หากเรานำมาใส่ในการทำงาน ธุรกิจ หรือแม้กระทั่งการใช้ชีวิต จะทำให้เราสามารถทำงานได้ดีขึ้น

2. สิ่งหนึ่งที่แยกระหว่างมนุษย์กับเอไอคือ Creativity

3. 3 สิ่งที่จะทำให้คนในองค์กรมี Creativity ด้วยกัน

  • Engagement เราต้องมีทำให้คนในองค์กร นำเสนอไอเดีย ทำให้คนรู้สึกปลอดภัยในองค์กร (Psychology Safety)
  • Diversity หรือความแตกต่างหลากหลาย ซึ่งจะทำให้เกิด Creativity
  • Embracing the Dreamer ให้เราสนับสนุนคนที่เป็น Dreamer และสิ่งเหล่านี้จะเกิดขึ้นไม่ได้ ถ้าเราไม่มี “ความรู้” (Knowledge)

4. โอกาส สามารถสร้างทางเลือกได้ ทำให้เราเลือกสิ่งที่ดีที่สุดให้กับตัวเราเอง เหมือนเราอยู่ในลำธารตื้น ๆ โอกาสก็เหมือนปลา ถ้าเราไม่มีความรู้ เราก็จะไม่สามารถจับปลาได้ ถ้าเรามีความรู้มากก็จะสามารถเลือกได้ว่าจะจับปลาตัวไหนได้

5. เราแต่ละคนมีเป้าหมายที่ไม่เหมือนกัน มาตราวัดศักยภาพที่ดีที่สุดของมนุษย์ ไม่ใช่จุดสูงสุดที่ทำได้ แต่เป็นระยะทางที่ปีนขึ้นมาได้ จากจุดเริ่มต้นต่างหาก

6. ความสนใจของคนมีความซับซ้อนขึ้น ทำให้วิธีการสื่อสารวิธีกาารตลาดปลี่ยนไปเยอะมาก เทรนด์นี้มีประโยชน์กับผู้ประกอบการขนาดเล็ก เพราะคล่องตัวกว่า

7. ช่องทางการสื่อสารมัน “Fragment” มาก ๆ การทำแคมเปญหว่านอาจใช้ได้ แต่ไม่ถูกทั้งหมด แต่ละแคมเปญอาจต้องมีการย่อยให้ถูกจริตกลุ่มลูกค้าแต่ละประเภทมากขึ้น

8. “Creativity” ที่ดีต้องเชื่อมต่อกับสินค้าและแบรนด์ได้ดีด้วย เช่น Burger King เคยปรับตัวด้านคอนเทนต์จากออนไลน์สู่ออฟไลน์

9. บางทีเราอาจไม่ต้องลงทุนเยอะ แค่ตั้งต้นจากห้องประชุมก็ได้ หรืออาจศึกษาจากแบรนด์อื่น ๆ แบบที่ Burger King ดู Swensens จับมือกับเต่าบิน เป็นตู้ Tao Tim นั่นก็เป็นอีกตัวอย่างของการปรับตัว

10. นักการตลาดต้องเข้าใจแก่นของประเด็นนั้น ๆ มากขึ้นด้วย ว่าเข้ากับ Brand Identity ของเราหรือไม่ เพื่อให้แบรนด์สามารถต่อยอด สร้าง Call to action และสร้างประสบการณ์ดี ๆ ให้ผู้บริโภค

11. เอเจนซี่รุ่นใหม่ปรับตัวกันเยอะมาก จากเมื่อก่อนแคมเปญเป็นล้าน ๆ เดี๋ยวนี้ไส้ในเขามีรายละเอียดมากขึ้น แบรนด์เองก็ต้องเปิดกว้างมาทำงานกับเอเจนซี่มากขึ้น

12. Sustainability การทำแบรนด์ต้องมี purpose สิ่งที่สังคมเริ่มจับตามอง คือ Greenwashing แบรนด์ทำไม่จริง แต่คนจับตา

13. การที่เราใช้ Data บนแพลตฟอร์ม ทำให้เราใช้ประโยชน์ได้เต็มที่ แต่เราก็ต้องเรียนรู้และพัฒนาควาเข้าใจแพลตฟอร์มให้มากขึ้น เพื่อให้ได้ประโยชน์สูงสุด

14. “Commerce Mindset” คือ การกระโดดเข้าไปที่ Lower Funnel พยายามหาทางลัด ปิดการขายให้ได้เร็วขึ้น เร็วที่สุด

15. buying point & Selling point จุดขาย กับจุดทำให้ซื้อ ถ้าเราเข้าใจความสำคัญว่า ลูกค้าแคร์ว่าเขาจะได้อะไร เราต้องขายสิ่งที่เขาแคร์ และทำให้ลูกค้าตัดสินใจซื้อ ไม่ใช่แค่เสนอจุดขายอย่างเดียว

16. “Trend come and go people stay” พวกเราต่างหาก คือหัวใจสำคัญของการทำการตลาด

17. Software + AI ทำให้เราทำงานได้เก่งและเร็วขึ้น เช่น PS generate ถ้าเราทำงานเป็นเราจะทำงานในสิ่งที่เราทำได้ใช้เวลาน้อยลง

18. AI สามารถฟัง ได้ยิน พูดได้เหมือนคน อาชีพแรกที่จะตกงานคือ “ติวเตอร์” เพราะ AI เร็วกว่า สะดวกกว่า

19. ถ้าเราไม่ทำอะไรตอนนี้ 40% คนกว่าจะถูก Disrupt แล้ว ดังนั้นเราต้องเปลี่ยน Change ให้เป็น Chance และการเปลี่ยนแปลงนี้เกิดได้ โดยเริ่มที่ตัวเราก่อน

20. เราต้องเตรียมตัวเองให้ดี ตั้งใจทำงาน ทำผลงาน ทำสิ่งที่คุณทำให้มันไม่สามารถมีใครมาทดแทน ถ้ามีความ Unique ใช้ประโยชน์ได้ดี คนก็ไปต่อได้เอง

21. จากภาพรวมเศรษฐกิจของไทย ค่าเฉลี่ยต่อค่าบริการออนไลน์ จ่ายเงินรวมทั้งหมด ประมาณ 9 หมื่นพันล้าน เป็นกลุ่มโฆษณาออนไลน์ คนไทยจ่ายเงินทะลุออกนอกประเทศ 2 แสนกว่าล้านบาท

22. สเกลไหนในไทยน่าจะพอแข่งขันกับตลาดโลกได้? ตอนนี้ GDP ไทย ท่องเที่ยว 60% ขณะที่เกษตร 10% แต่ใช้คนถึง 30% แต่ถ้ามีเอไอเข้ามา จะมีบริษัทกี่รายที่สามารถฉวยโอกาสตรงนี้ได้เต็มที่ ธุรกิจส่วนใหญ่ในไทยรับเอไอได้น้อย ประเทศเลยไม่ได้ประโยชน์เท่าที่ควร

23. สิ่งที่มาพร้อมความเปลี่ยนแปลงคือความเหนื่อยล้าของผู้คน เราจึงต้องดูแลคนด้วยความเข้าใจ ไม่มีส่วนผสมตายตัว อย่าไปยึดติดกับสิ่งเดิม ๆ

24. คนเก่ง ไม่จำเป็นต้องเก่งเอง ซึ่งยาก เครียดได้ ดาวน์ได้ งงได้ คิดไม่ออกได้ แต่ต้องหาตัวช่วย ไม่เชื่อในการอยู่คนเดียวแล้วเก่ง

25. ผู้คนต่างมองหา Career Journey ก็ต้องมองถึงการออกแบบความยั่งยืนทั้งชีวิต สิ่งที่เป็นค่าตอบแทน สิ่งที่เป็นคุณค่าให้องค์กรกับคนเดินไปร่วมกันคืออะไร?

26. การรักษาคนเก่ง ๆ ให้คนเก่งอยากทำงาน คือการทำให้เขาสบายใจ, fair pay ต้อง Up Skill ให้เขาเรื่อย ๆ ให้เขารู้สึกมี Value จะรักษาเขาไว้ได้

27. ถ้ามองภาพเศรษฐกิจ ตอนนี้ต้องยอมรับว่าประเทศไทยตกขบวน เราดีกว่าปีก่อน ๆ ในเรื่องการส่งออกก็จริง แต่ภาพรวมถ้าเทียบกับ ฟิลิปปินส์, มาเลเซีย, อินโดนีเซีย ในเมื่อเราตกขบวนแล้ว ต้องหาช่วงเวลาที่เหมาะว่าจะขึ้นรถไฟช่วงไหน

28. ผู้นำรุ่นใหม่ เหมือนแซนด์วิช ที่ต้องรับมือกับความคาดหวังของคนในทีม ทั้งจาก Downward และ Upward Management เราต้องจัดการได้ทั้งสองฝั่ง

29. เดี๋ยวนี้มีแนวคิดใหม่ ๆ เกิดขึ้นมาเยอะ แต่ยังขาด Critical thinking มารองรับ ว่าเพราะอะไร

เช่น ทุกวันนี้เราบอกว่าจุดแข็งประเทศไทยคือแหล่งท่องเที่ยว แต่คุณรู้ไหมว่ารายได้การท่องเที่ยวของประเทศไทย ยังกระจุกอยู่แค่ 5 จังหวัด

30. ตอนนี้ Talent เราควรมองเป็น Made with Thiland ไม่ควรปิดโอกาสให้คนไม่อยากไปที่อื่น ต้องทำยังไงให้คนรุ่นใหม่คิดว่า ประเทศนี้ยังเป็นบ้านอยู่

31. อนาคตของประเทศไทยคือ เศรษฐกิจ 3 สี Green Economy, Silver Economy, Blue Economy ที่ได้มาจากการ SWOT อนาคตประเทศไทย

32. ปัจจุบันมีเครื่องมือที่ช่วยเก็บ customer insight มากมาย เช่น Google trends, Social Listening tool ซึ่งเครื่องมือเหล่านี้ทำให้รู้ว่า ตอนนี้คนสนใจเรื่องอะไร, คนเรียกสินค้าเราว่าอะไร / บางครั้งแพ้-ชนะกันแค่การเรียกสินค้า เช่น ชาไข่มุกหรือชานมไข่มุก keyword research สำคัญมาก

33. เรามี Hard skill และ Soft skill คือ วิเคราะห์ได้ และสื่อสารเป็น ด้วยการฝึก Elevator speech คือ ฉกฉวยโอกาสการพูดในช่วงเวลาขึ้นลิฟท์ คือช่วงเวลาสั้น ๆ กระฉับและได้ผล เหมือนใน TikTok 2 นาที ให้รู้เรื่อง การพูดให้กระชับได้ คือ ต้องรู้จริงก่อน

34. แบรนด์ต้องทำให้ Trust ที่เป็นนามธรรม ออกมาเป็นรูปธรรมให้ได้ โดยจะมี 3 กระทำ ที่แบรนด์ทำแล้ว ทำให้ลูกค้าเชื่อใจมากขึ้น

35. หลักการหา Insight ที่สำคัญ คือ ให้พยายามตั้งคำถาม แบบ Deep why เพื่อเข้าใจที่มาที่ไป ว่าทำไมลูกค้าถึงทำแบบนั้น Insight ที่ดี ต้อง Specific ไม่กว้างจนเกินไป นำไปสู่การกระทำได้ เกี่ยวข้องกับแบรนด์ และทันสมัย ไม่ล้าหลัง

36. หลายครั้ง Insight ช่วย Inspire ให้เราเจอ idea ใหม่ ๆ ได้ โดยเฉพาะ insight ที่ได้จาก Online Review/Forum/Pantip โดยต้องดูทั้ง สิ่งที่ชม/บ่น โดยต้องดูทั้งแบรนด์เรา และคู่แข่ง

37. เราไม่สามารถแก้ ในสิ่งที่เราไม่เข้าใจได้ ทุกอย่างต้องเริ่มจาก Insight โดยคนที่หา Insight ได้เก่ง ต้องมีพฤติกรรม

  • เปิดใจ ตั้งใจรับฟัง ไม่เอาความรู้เดิมมาปิดกั้น
  • ช่างสังเกต เพราะบางเรื่องลูกค้าไม่ได้พูดเอง เราต้องฟังให้ลึกไปถึงความต้องการที่แท้จริง
  • เคารพความเป็นส่วนตัวของลูกค้า และทำเพื่อประโยชน์ของลูกค้าเป็นหลัก

38. เคล็ดลับที่ทำให้ธุรกิจสำเร็จมากขึ้น ไม่ใช่การหมกหมุ่นกับคู่แข่ง แต่เป็นการหมกมุ่นกับลูกค้า โดยให้เราใช้เวลา สายตา และพลังงานไปกับลูกค้า เพื่อทำความเข้าใจลูกค้าให้ได้มากที่สุด

39. หน้าที่ของนักการตลาดต้องแยกให้ได้ว่าสิ่งไหนคือ Data Information Insight

  • Data - ข้อมูลดิบ ที่ยังไม่ได้ถูกจัดระเบียบ จัดหมวดหมู่ ได้ Data มาดี แต่ยังใช้ไม่ได้ เช่น 80% ของคุณแม่ทำอาหารให้ครอบครัว
  • Information - นำ Data มาจัดระบบระเบียบ เช่น ทำกราฟ จัดหมวดหมู่ จะนำมาใช้ได้ แต่ยังไม่ถึงขั้นดีที่สุด เช่น คุณแม่ส่วนใหญ่ทำอาหารมื้อเย็นให้ครอบครัว
  • Insight - นำข้อมูลมาผ่านการวิเคราะห์ จนทำให้เข้าใจลูกค้า เช่น คุณแม่ทำอาหารเย็นให้ครอบครัวเพราะรู้สึกภูมิใจ มีความสุขที่ได้ทำสิ่งดี ๆ ให้ครอบครัว >> หา WHY ให้เจอ

40. การเก็บข้อมูลลูกค้าไม่ใช่แค่หน้าที่ของใครคนใดคนหนึ่ง เราอาจต้องออกแบบให้พนักงานหน้าร้านสามารถเก็บข้อมูลกลับมาให้ได้ เก็บอย่างไร และ ควรเก็บข้อมูลอะไร

41. ทุกวันนี้การแข่งขันจะยิ่งเข้มข้นขึ้น (Dynamic Competition) เพราะลูกค้าเปลี่ยนไปไว มีการเข้ามาของทุนจีน บริษัทต่างประเทศ หรือ AI ทุกแบรนด์ได้รับข้อมูลเหมือนกัน แต่การมีแผนกลยุทธ์ที่ดี จะสร้างความแตกต่างของแบรนด์ได้ โดยแผนกลยุทธ์ ประกอบด้วยกลยุทธ์ คือ วิธีคิดที่ทำให้เราชนะ และแผนคือวิธีทำงาน

42. กลยุทธ์ คือการเลือกว่าเราจะทำไม่ทำอะไร ที่ไม่เกี่ยวข้องกับสิ่งที่แบรนด์กำลังโฟกัส เพราะเรามีทรัพยากรอย่างจำกัด และการเลือกนั้นต้องสอดคล้องกันทุกฝ่ายไปในทิศทางเดียวกัน รวมถึงต้องเลือกสนามรบที่เราได้เปรียบ เพื่อให้เราชนะเท่านั้น

43. Mindset สำคัญของนักกลยุทธ์ คือ ต้องมีความต้องการที่จะชนะ ต้องเน้นเข้ารอบ ไม่เน้นเข้าร่วม นักกลยุทธ์ ที่เก่ง ต้องนิยามการชนะให้ชัดเจน และต้องคิดได้ว่าจะทำยังไงให้ชนะ ทั้งในเกมระยะสั้น และวิธีทำให้ลูกค้าอยู่กับเราได้ในระยะยาว

44. ลักษณะของกลยุทธ์ที่ดี

  • Effective : ต้องตอบเป้าหมาย
  • Efficient : ต้องมีประสิทธิผล
  • Specific : ต้องเหมาะกับสถานการณ์ของแบรนด์
  • Creative : ต้องมีความคิดสร้างสรรค์

45. สิ่งสำคัญคือ อย่าพอใจแค่กลยุทธ์แรกที่คิดได้ ต้องพยายามคิดนอกกรอบ เพื่อหากลยุทธ์ใหม่ ๆ แต่ก่อนที่จะคิดนอกกรอบได้ จำเป็นต้องรู้ก่อนว่ากรอบของเราคืออะไรบ้าง

46. Creativity Driven Data คือ เทคนิคการเอาความสร้างสรรค์ มาช่วยเก็บ Data อย่าลืมว่า Creativity อย่างเดียวไม่พอ ต้องมี Empathy ต่อลูกค้าด้วย

47. Be a vitamin of pain point ต้องเยียวยาความเจ็บช้ำของลูกค้า แบรนด์คุณให้อะไรให้ลูกค้าบ้าง คุณสามารถเป็นยาแก้ปวดหัวให้ลูกค้าได้มั้ย เป็นไวตามินให้ลูกค้าสบายใจได้หรือเปล่า

48. สิ่งที่กำหนดทิศทางของเรือไม่ใช่ลม แต่คือใบเรือ ถ้าเราคิดว่าสิ่งที่กำหนดชะตาชีวิตเราไม่ใช่ปัจจัยภายนอก แต่คือพวกเรา และการกำหนดใบเรือก็ขึ้นอยู่กับพวกเรา

49. นวัตกรรมแรกของ Thomas Edison เกิดจากการเห็น Pain point ว่า เวลามนุษย์คุยกันแล้วไม่มีการบันทึกเสียงเก็บไว้ เขาจึงทำแถบเทปบันทึกเสียงขึ้นมา

50. ถ้าเอาเทคโนโลยีมาใช้อาจจะเจออะไรเจ๋ง ๆ ในนั้นก็ได้ ถ้าเอาความคิดสร้างสรรค์เข้าไป จะทำให้มันมีมูลค่ามากขึ้น Creativity = doing new things with old things

51. ถ้าอยากทำการตลาดให้ดี สิ่งที่ขาดไม่ได้คือ Martech

52. ข้อมูลจาก Thailand Martech Report 2024 ผลสำรวจจาก 400 บริษัท เนื่องจากความสำคัญของ Martech มีมากขึ้น จะเห็นได้ชัดเลยว่าบริษัทส่วนใหญ่ทุ่มงบประมาณให้กับ Martech โดยเฉลี่ยถึง 2.46 ล้านบาทต่อปี

53. Martech Stacks, Not Just Martech Tools การเก็บสถิติ Social Listening สามารถฟังเสียงใน Ecommerce Shoppee Lazada ได้ด้วย เช่น สามารถรู้ยอดขายของสินค้าในตลาดได้เลย

54. AI จะไม่ Stand Alone แล้ว อนาคตเราจะเห็นการ Integrate เข้าไปใน Martech ตัวนั้นเลย

55. การใช้งาน Martech ให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด ใช้เทคนิค 5 Ps Of Martech

  1. Planning Strategy
  2. People
  3. Planer
  4. Platform
  5. Pioneer

56. อยากให้เปลี่ยนคำว่า Toxic People เป็น Toxic Behavior เขาแค่มีนิสัยไม่น่ารัก ไม่ได้แปลว่าเขาเป็นคนไม่น่ารัก ทุกคนต่างมีความ Toxic ในตัวเอง

57. บรรยากาศของการทำงานส่งผลต่อการทำงาน 94% ซึ่งก็มีผลต่อความสัมพันธ์ในองค์กรได้ สุดท้ายเรื่องพวกนี้มันไม่ได้ส่งผลต่อมูลค่าทางใจเท่านั้น แต่ส่งผลต่อมูลค่าเศรษฐกิจเลย

58. วิธีลดความขัดแย้ง ถ้าอ้อม ๆ ไม่ได้ ตรง ๆ ไม่ได้ ให้ลองเจรจาดู ถ้าเริ่มต้นด้วยการให้อภัยได้จะดีมาก ให้อภัยที่ภายในแล้วเราจบ เขาก็รับผลของการกระทำของเขาต่อไป

59. เรากำลังเผชิญกับสิ่งที่เราต้องสูญเสียพลังงานชีวิต เราต้องเรียนรู้แหล่งพลังใจและวิธีเติมกำลังใจให้ตัวเอง โดยที่เราไม่ต้องรอเจอสถานการณ์ Toxic ก่อน

60. Toxic People คือ เป็นพฤติกรรมที่ไม่สม่ำเสมอ สามารถเปลี่ยนแปลงได้ สาเหตุมาจากการที่ต้องการเอาตัวรอด ความกลัวในเรื่องต่าง ๆ จะมีพฤติกรรมเป็นพิษเมื่อ เครียด เจอเรื่องไม่ดี ที่กระตุ้นให้เกิด

61. สัญญานว่าเรา Toxic เวลาที่เรามีพฤติกรรมที่ไม่น่ารัก ให้สังเกตจาก เมื่อส่งผลกระทบกับจิตใจทำให้ความสัมพันธ์ไม่ดี ไม่ได้สบตาเหมือนเดิม ไม่คุยเหมือนเดิม ให้ลองสำรวจตัวเอง เช็คความสัมพันธ์ เพื่อน ครอบครัว เจ้านาย

62. เจอคำถามใหม่ ๆ ว่า เก็บเงินไปทำไมถ้าตายก่อน แต่ส่วนใหญ่ปัญหาคือส่วนมากมักจะไม่ตาย บางคนที่มีเงินมากหาเงินเก่งมากเเต่ก็ไม่กล้าใช้เงินกลัวมันหมด มันจึงเป็นเรื่องที่ปัจเจกมาก ๆ

63. อย่าตั้งเป้าหมายการเงินเป็นเงินหรือตัวเลข ตั้งเป้าหมายการเงินให้อิงกับเป้าหมายชีวิต แล้วค่อยแปลงเป็นเงิน

64. ชีวิตกับเงินบาลานซ์กันได้ถ้าคุณสามารถควบคุมการเงินของคุณได้เราตั้งเป้าหมายเเละเเผนการเงินที่ชัดเจน มีสติในการใช้จ่าย

65. ชีวิตกับเงินเหมือนการเดินบนเส้นลวด หากเอียงไปด้านการเงินมากไปก็กลับมา หากสนุกกับชีวิตมากไปก็มีสติกลับมา ไม่มีผิดไม่มีถูก อย่าให้จุดหนึ่งของชีวิตทำให้เรารู้สึกไม่ดีเพราะชีวิตเป็นเรื่องที่ต้องดูกันไปยาว ๆ เป็นการเดินทางที่ยาวไกล จงใช้ชีวิตอย่างมีสติ

66. มุ่งสู่อิสรภาพทางการเงินก่อน 60 ปี มี 2 แนวคิด

  • แนวคิด F.I.R.E: เน้นการสะสมความมั่งคั่งสุทธิเป็น 25 เท่าของประมาณการรายจ่ายต่อปี ออมและลงทุน 70%
  • แนวคิด Passive Income: รายได้จากทรัพย์สิน Passive Income นำไปสู่การมีอิสรภาพทางการเงิน

ผ่านช่องทาง ดอกเบี้ย เงินปันผล ค่าเช่า ค่าลิขสิทธิ์

67. การทำธุรกิจให้แข็งแรง ให้นึกถึง 4 อย่าง

  • What the world need เราต้องมองว่าสิ่งที่เราทำตอบสนองสิ่งใดที่โลกต้องการ โลกนี้ต้องการอะไรจากธุรกิจนี้ ธุรกิจนี้สามารถตอบสนองเรื่องอะไรได้
  • Unique ธุรกิจเรามีจุดขายที่แตกต่างจากคนอื่นหรือเปล่า จุดขายในธุรกิจเราคืออะไร
  • Passion เป็นสิ่งที่ทำให้ธุรกิจที่เหมือนกัน ทำไม่เหมือนกัน
  • Business Value ของแต่ละธุรกิจของเราคืออะไร Value ของแต่ละธุรกิจแตกต่างกัน

68. เด็กรุ่นใหม่มองหาว่า องค์กรเป็นแบบไหน มีเป้าหมายแบบไหน ถ้าองค์กรมีเป้าหมาย Motivation จะมา และทำให้พนักงานที่ได้ทำองค์กรแบบนี้รู้สึกว่ามีคุณค่าจึงเป็นเหตุผลว่า ทำไมธุรกิจต้องมีหัวใจ

69. ความฝันที่ยิ่งใหญ่เกิดจากจุดเล็ก ๆ ก่อนเปลี่ยนโลกต้องเปลี่ยนตัวเองก่อน เราทำสิ่งนี้แล้ว มันดีต่อตัวเองยังไง ฝันใหญ่ได้ แต่ต้องทำตัวเองให้ดีก่อน

70. เมื่อไหร่ก็ตามที่เราทำ Core Value ของธุรกิจเรา ให้เป็น Culture จนกลายเป็น Behavior ที่ติดตัวคนในองค์กร จะเป็นความสำเร็จในการพัฒนาคนขององค์กรนั้น เพราะ Brand Ambassador ที่ดีที่สุดขององค์กร คือ ‘พนักงาน’

71. 2050 เราจะสามารถมีพลังงานสะอาดที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในโลก

72. พนักงานทุกคนกังวลเรื่องการเข้ามาแย่งงานของ AI จากการวิวัฒนาการ และมีผลกับการทำให้พนักงานรู้สึกว่าทำให้ไม่สำคัญกับองค์กรจากการเข้ามาของ AI

73. Connection จำเป็นมาก มีแล้วใช้ให้เป็น แบ่ง Connection ให้เปน ใหญ่ กลาง เล็ก สร้าง Connection ได้ง่าย ๆ จากความน่าเชื่อถือของเรา เล่นบทให้ถูก เพราะบทที่ถูกคือชีวิต คอนเนคชันดี เราจะไปได้ตลอด

74. ปี 2024-2025 เราอยู่ในจุดหักศอกแรกของการเปลี่ยนแปลง เราจะถูก Disrupt ถ้าเราไม่ทันการเปลี่ยนแปลง

75. คนใช้ AI ต้องใช้ M.A.D (Machine Learning / Artificial Intelligence / Data) ด้วย เพื่อให้ AI มีประสิทธิภาพ

76. ข้อจำกัดที่ทำให้ใช้ AI แล้ว ไม่ Productive เช่น ข้อมูลที่ใช้, ลูกค้า, กฎหมาย, รัฐบาล การเอา AI ไปใช้ผิดวิธีไม่เหมาะกับงาน เลือก Use Case ได้ถูกหรือเปล่า เลือกเครื่องมือได้ถูกต้องไหม ว่าต้องใช้ Gen AI หรือ Predictive AI เป็นต้น

77. Leader ต้อง Empower พนักงาน โดยให้ AI เป็นฟันเฟืองไม่ใช่ไม้เท้าวิเศษ AI มันไม่ได้แก้ทุกอย่าง มันเป็นแค่เครื่องมือหนึ่ง แต่ “คน” สำคัญที่สุด

78. ผู้นำยุคนี้นอกจากเก่งเทคโนโลยีแล้ว ต้องมีความถ่อมตัว กล้าหาญที่จะทำสิ่งที่แตกต่าง และจงภูมิใจในความกลัวในการ Transformation องค์กร เพราะความกลัวจะทำให้คุณเติบโต

79. ในมุมมองของผู้บริหาร Crisis สามารถกลายเป็น Feedback ที่นำมาสู่การพัฒนาได้ เช่น กิจกรรมที่เกิดความผิดพลาดในโลก Offline อย่างการให้สัมภาษณ์ของผู้บริหาร ที่ถูกถล่มในทวิตเตอร์ เมื่อเกิดเป็นปัญหาแล้วมี Complain จากสังคม เราสามารถนำมาใช้ให้เกิดประโยชน์ด้วยการเป็นข้อควรปรับปรุงในบริษัท (Crisis Leads to Benefit)

80. สร้างธุรกิจให้เข้ากับชีวิต อย่าให้ชีวิต ต้องวิ่งตามธุรกิจ

81. ตัวอย่าง SHEIN ออกสินค้าใหม่แทบจะทุกวันแต่ไม่แป้ก วิธีที่ใช้คือ มี Channel เป็นของตัวเอง เช่น เว็บไซต์ เพื่อใช้เก็บข้อมูลว่าใครกำลังสนใจอะไร โดยใช้เทคโนโลยี เปลี่ยน Data ให้เป็น Fashion เพื่อสั่งผลิตสินค้าร่วมกับการกำหนดจำนวน และติดต่อหาอินฟลูเอนเซอร์ว่าอีกกี่วันจะต้องโปรโมทสินค้าชิ้นนี้ ทำให้โอกาสที่สินค้าจะแป้กนั้นลดน้อยลง

82. เมื่อมี Service ถึงใจ ก็ไม่จำเป็นต้องกลัวคู่แข่งที่จะเข้ามา โดยการทำ Service ให้ถึงใจ ต้องเริ่มจากการสร้างความเชื่อมั่นให้กับลูกค้า โดยการใช้เทคโนโลยีเข้ามาช่วย ตัวอย่างเช่น ร้านซ่อมโทรศัพท์เอากล้องมาอัดทุกวิธีให้ลูกค้าดู ว่าทำอะไรกับโทรศัพท์ลูกค้าบ้าง เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้กับลูกค้า

83. สิ่งที่ทำให้เราขายได้เกิดจาก ‘การรู้จักลูกค้าเป็นอย่างดี’ ถ้าเรามีเครื่องมือที่พร้อมให้เราใช้งาน เราจะรู้ว่าปัญหาอะไรที่ทำให้ลูกค้าจากเราไป หรือยอดขายตก เช่น Service ที่เราไม่มี แต่คู่แข่งมี

84. ในการทำ Marketing หลังจากมีแพลนแล้ว งานมักจะไปคอขวดที่ Production ปัจจุบันมี Tools ที่จะมาช่วยลดเวลา เช่น Canva เข้ามาช่วยได้ ลดเวลาจากระดับอาทิตย์เป็นหลักวันได้ และทดลองได้หลาย ๆ แบบ ไม่ต้องเลือกเพียงแบบเดียว

85. บริษัทที่พร้อมในการทำ AI ทั่วโลก มีแค่ 4% ที่มีข้อมูลพร้อมรองรับการใช้ AI Automation อีกส่วนคือความพร้อมในเชิงคนและกระบวนการ รวมถึงการตั้ง KPI เพื่อวัดผลด้วย เช่น เดิมอาจจะวัดด้วยชิ้นงานหรือชั่วโมง แต่อาจจะต้องเป็นเชิงปริมาณมากขึ้น

86. การทำรีแบรนด์ ไม่ได้เกี่ยวกับ การโฆษณา หรือการทำการตลาด เพียงอย่างเดียวแต่เกี่ยวกับการทำธุรกิจด้วย

87. โลโก้ของแบรนด์ที่เปลี่ยนไปถึงแม้ว่าจะเป็นจุดเล็ก ๆ น้อย ๆ ก็ทำให้ความรู้สึกของคนที่มีต่อแบรนด์นั้นเปลี่ยนไป เช่น คนรู้สึกว่าแบรนด์ ดูทันสมัยขึ้น ดูเป็นดิจิทัลมากขึ้น

88. 5 เหตุผลทำไมเราต้อง Rebrand

  • Expansion / Growth การเติบโต ต้องการที่จะสื่อสารกับผู้บริโภคยุคใหม่ หรือไปยังตลาดใหม่
  • Mergers & Acquisitions การรวมบริษัท
  • Repositioning เปลี่ยนภาพลักษณ์หรือความเชื่อใหม่
  • Revitalization ทำให้ตัวตนของแบรนด์สดใสมากยิ่งขึ้น
  • Differentiation สร้างความแตกต่าง

89. TikTok เป็นตลาด Red Ocean ในทุกวันมีคนเข้ามาเยอะมากและผู้เล่นเยอะมาก แต่ในขณะที่มีการแข่งขันสูงมาก ก็ยังมีคนที่สำเร็จอยู่ดี ดังนั้นสิ่งที่สำคัญคือทำยังไงให้เราแหวกว่ายเข้าไปประสบความสำเร็จได้

90. แบรนด์ส่วนใหญ่โฟกัสการทำคอนเทนต์เพราะอยากได้ยอดผู้ติดตาม แต่ไม่ค่อยสนใจยอดขายในไลฟ์สด ซึ่งเป็นจุดที่ทำให้ไม่ประสบความสำเร็จ

91. ถ้าสงสัยว่าสินค้าในแพลตฟอร์มอื่นมีอัตราเติบโตสูงขึ้นแต่ไม่รู้ว่าเพราะอะไร ให้ลองทำ ‘Focus Group’ ถามลูกค้าว่าซื้อสินค้าได้ยังไง เช่นยอดขายใน Shopee เพิ่มขึ้นเพราะ ลูกค้าเห็นว่ามีโค้ดส่วนลดมากกว่า TikTok

92. แบรนด์เริ่มอยากมี In-house ทำ Tiktok เป็นของตัวเอง ซึ่งทำให้เป็นการแข่งขันที่สูงมากระหว่าง Corporate Brand คนที่เป็น Creator ตัวเล็กอาจจะต้องหาช่องทางในการทำ Content

93. วิธีเรียนรู้ได้ดีที่สุด ต้องเปิดใจ หาตัวเองให้เจอ และลงมือทำ ทุกคนสามารถเรียนรู้ได้ แต่ที่ไม่รู้คือปิดใจ และทำให้คนตกยุค ไม่ทัน คุณอาจต้องเริ่มเรียนรู้ใหม่ทั้งหมด ถ้าเรียนรู้ตลอดเวลา จะทำให้เราไปได้ไกลมาก

94. ถ้าอยากเป็นครีเอเตอร์ คอนเทนต์ 4 หมวดหมู่ที่มีคนทำน้อย แต่เงินเยอะมากหากเทียบเม็ดเงินในตลาด คือ Automotive, Parenting, Pets, Family & Senior

95. Facebook News Feed คน (Following)คือคีย์หลักในการกระจายข้อมูล 85%, AI Suggestion 15% ระยะะหลังจะเกิด Echo Chamber เราจะเจอกับคนที่เห็นด้วยกับเรา และเข้าใจว่าคนทั้งโลกเห็นด้วยกับเรา เช่น การเลือกตั้ง

96. AI Personalize Journey จะจับให้อยู่ในกลุ่มกว้าง และลงลึกไปเรื่อยๆ จับเราตามความลึกของคอนเทนต์ เพราะเกี่ยวข้องกับคอนเทนต์ที่เราทำ เช่น กีฬา แต่เป็นในหมวดกีฬาทั่วไป แต่ถ้าลงลึกลงมา เช่น แมนยู ก็จะลงลึกไปเรื่อยๆ

97. อย่าเริ่มต้นแบบหมดใจ ถ้าพลาดไปจะหมดตัว คำว่า All in ทุ่มหมดหน้าตัก รีบทำงานให้เต็มที่ แล้วค่อยหยุด ในโลกการทำงานไม่มีการการันตีผลลัพธ์

98. ทำธุรกิจห้ามพอใจกับสิ่งที่เป็น ชีวิตส่วนตัวให้พอใจในสิ่งที่มี ทำธุรกิจจะอยู่เฉยไม่ได้ ขึ้นหลังเสือ ขี่หลังมังกร จะมีคนแข่งกับคุณตลอดเวลา เราต้องพัฒนาไปเรื่อย ๆ

99. Circular Economy Mindset ควรอยู่ใน Business Model ตั้งแต่ตอนวางแผนหรือคิดได้เลย ไม่ต้องมาพยายามคิดทีหลังในการทำ CSR

100. การทำงานเราจะต้องรู้ให้เราที่สุดว่าอะไรที่ไม่ใช่ จะได้เอาแรงไปใช้กับสิ่งที่ใช่


ใครที่อยากรับชมแบบจัดเต็มสามารถซื้อบัตรรับชมย้อนหลังทุกเซสชันเพิ่มเติมได้ที่

CREATIVE TALK CONFERENCE 2024 | Zipevent - Inspiration Everywhere
CREATIVE TALK CONFERENCE 2024 -
trending trending sports recipe

Share on

Tags