ผลวิจัยเผยเมื่อคนไม่เก่งมาใช้ AI จะทำงานได้แย่ลงกว่าเดิม

Last updated on ก.พ. 2, 2024

Posted on ม.ค. 27, 2024

AI ช่วยให้ทุกคนทำงานได้ดีขึ้นจริงไหม ทำไมบางคนยิ่งใช้ ประสิทธิภาพยิ่งแย่ลง

ปี 2024 เป็นปีที่เราเดินหน้าเข้าสู่ยุคแห่ง AI เต็มรูปแบบ จะเห็นเลยว่าตั้งแต่มีการเปิดตัว Generative AI เจ้าปัญญาประดิษฐ์เหล่านี้ ได้กลายเป็นที่รู้จักมากขึ้น ผู้คนมากมายนำ AI ไปใช้ในการทำงาน ตั้งแต่ส่วนบุคคล ระดับกลุ่ม ไปจนถึงภาคธุรกิจ เรียกได้ว่า AI เนี่ย เป็นเสมือนผู้ช่วยที่ขาดไม่ได้ไปเรียบร้อย

เมื่อเป็นอย่างนั้น เหล่านักวิจัยจึงมีการตั้งสมมติฐานว่า AI จะสามารถทำให้ทุกคนทำงานได้ดีขึ้นจริงไหม เพราะนักวิจัยเชื่อว่าการที่เราได้สนทนากับโมเดลภาษาขนาดใหญ่ (LLM) อาทิ ChatGPT จะช่วยให้เราได้รับความช่วยเหลือ ข้อเสนอแนะ คำแนะนำที่มีคุณค่า ที่นำไปสู่การปรับปรุงประสิทธิภาพ และการเติบโตของตนเองได้

นักวิจัยจึงลงมือศึกษาในหัวข้อ ‘ผลกระทบของ Generative AI ต่อประสิทธิภาพของผู้ประกอบการ’ (The Uneven Impact of Generative AI on Entrepreneurial Performance)

การวิจัยนี้มีเป้าหมายเพื่อวัดผลกระทบของการใช้ AI ต่อประสิทธิภาพของผู้ประกอบการที่มีรายได้น้อย ในประเทศกำลังพัฒนา ซึ่งมุ่งเน้นไปที่ธุรกิจขนาดเล็ก และขนาดกลาง

โดยประเทศที่พวกเขาเลือกจะลงไปทำการวิจัยคือประเทศเคนยา เนื่องจากเป็นประเทศที่กำลังพัฒนา และยังไม่ได้มีการลงวิจัยในเรื่องผลกระทบด้านประสิทธิภาพการทำงานที่ได้จาก Generative AI

ทีมวิจัยจึงได้ลงประกาศใน Facebook เพื่อดึงดูดผู้ประกอบการมากมายให้มาสมัคร โดยนักวิจัยได้นักธุรกิจหลากหลายอาชีพกว่า 640 ราย ในเคนยามาเข้าร่วมการทดลอง ซึ่งการประเมินต้องครอบคลุมผลกำไร รายได้ และแนวทางการทำงาน เพื่อจะได้มั่นใจว่าสามารถเปรียบเทียบในแง่ของประสิทธิภาพได้อย่างถูกต้อง

ส่วนของการวิจัย ทีมนักวิจัยก็ได้ประดิษฐ์ Mentor ขึ้นมา โดย Mentor เป็น AI ที่สร้างมาจาก GPT-4 ซึ่งเป็นโมเดลภาษาขนาดใหญ่ของ OpenAI และพวกเขาก็นำมันมาติดตั้งไว้บน WhatsApp ที่ผู้ประกอบการชาวเคนยาสามารถเข้าถึงได้

Mentor มีเป้าหมายในการให้คำแนะนำสำหรับการทำธุรกิจ โดยผู้ใช้สามารถถามคำถาม และ Mento ก็จะให้คำตอบในการปฏิบัติ 3-5 ข้อต่อคำถามที่ผู้ประกอบการตั้งไว้ ซึ่งการโต้ตอบกับ Mentor มีเป้าหมายเพื่อกระตุ้นให้ผู้ใช้ สามารถค้นหาข้อมูลเพิ่มเติมจาดคำแนะนำที่ได้รับ

และนักวิจัยก็หมายมั่นว่า การที่ผู้ประกอบการใช้ Mentor จะทำให้ได้เห็นความต่างชั้นทางธุรกิจขนากดเล็กมากขึ้น

สิ่งที่นักวิจัยพบก็คือ ในประเทศที่กำลังพัฒนาอย่างเคนยา AI ไม่มีผลกระทบต่อประสิทธิภาพทางธุรกิจมากนัก ทว่ามันกลับเพิ่มช่องว่างด้านประสิทธิภาพระหว่างคนที่เก่ง (High Performance) และคนที่ไม่เก่ง (Low Performance) แทน โดยผู้ประกอบการที่เก่งจะได้รับประโยชน์จาก AI มากขึ้นถึง 20% แต่ผู้ประกอบการที่ไม่เก่งดันทำงานได้แย่ลงถึง 10%

พวกเขาพบว่าคนที่ไม่เก่ง จะถามคำถามที่ยาก ซึ่งอยู่นอกเหนือความเข้าใจของ AI แต่คนที่เก่ง มักจะรู้ขอบเขตของคำถาม เวลาต้องการอะไร พวกเขาก็จะถามได้ตรงจุดมากกว่า นั่นทำให้คนที่เก่ง จึงสามารถถามคำถามที่สามารถจัดการได้ง่ายกว่า ซึ่ง AI สามารถให้ข้อเสนอแนะที่เป็นประโยชน์ได้

การวิจัยของในเคนยานี้ทำให้เราได้รู้ว่า ท้ายที่สุด AI ก็เป็นเพียงเครื่องมือชนิดหนึ่งที่จำเป็นต่อทุกอุตสาหกรรม และช่วยในการทำธุรกิจ แต่ AI ก็ไม่สามารถทำให้ทุกคนทำงานดีขึ้นได้ เพราะคนที่เข้าใจจะสามารถใช้มันได้ดีกว่า และยิ่งคนที่ไม่เก่งได้มาใช้ก็จะทำให้ประสิทธิภาพการทำงานลดลง

องค์กรต่าง ๆ เองควรจะต้องประเมินความต้องการของตนอย่างรอบคอบ ว่าจะพัฒนากลยุทธ์ยังไง และลงทุนในความเชี่ยวชาญแบบไหน เพื่อให้แน่ใจว่า AI จะกลายเป็นเครื่องมือสำหรับความก้าวหน้าของทุกคน ไม่ใช่เครื่องมือที่สร้างช่องว่างของความแตกต่างด้านความสามารถ


แล้วคุณผู้อ่านล่ะ คิดว่า AI ช่วยให้ทุกคนทำงานได้ดีขึ้นจริงไหม


แปล เรียบเรียง: พีรพล สดทรัพย์

ที่มา

trending trending sports recipe

Share on

Tags