ช่วงสองเดือนนี้เป็นช่วงที่ผมต้องเชิญผู้คนมากมายมาบรรยายให้กับงาน #CTC2024 ที่ตอนนี้กำลังเตรียมการกันอย่างเดือด
ทุกครั้งที่เชิญแต่ละท่านผมต้องทำการบ้านล่วงหน้าตลอด ไม่ว่าจะเป็นการติดตามดูว่าแต่ละท่านตอนนี้กำลังทำอะไรอยู่ เขาสนใจเรื่องอะไร เขาไปพูดเรื่องอะไรมาบ้าง บางทีการติดตามแค่ช่วง 2 เดือนอาจะไม่พอ นั่นจึงเป็นเหตุผลที่ผมเองต้องคอยอัปเดท และแวะไปดูตามงานอื่น ๆ ตลอดเวลา
พอถึงเวลาที่ต้องเชิญ ผมก็จะมี Concept ไปพร้อมว่าอยากให้เขาพูดเรื่องอะไร หัวข้อประมาณไหน และทุกครั้งก็เต็มไปด้วยความ “เกรงใจ” แม้ว่าหลายคนจะเจอหน้ากันอยู่เป็นประจำก็ตาม
ยิ่งผู้ใหญ่ที่นับถือ คนดัง ผมจะยิ่งเกร็ง รู้สึกว่าเขาให้เกียรติเรามาก ๆ ที่ตอบรับคำเชิญ แต่คำตอบที่ผมได้รับหลายครั้งทำให้ผมประหลาดใจ และหนึ่งในนั้นคือคำว่า..
“ขอบคุณที่นึกถึง”
คำพูดนี้ทำให้ผู้เชิญอย่างผมรู้สึกมีคุณค่าขึ้นมาทันที
เพราะครั้งแรกที่ได้รับคำนี้ผมตกใจมาก คือประมาณว่า “เห้ย เรามาเชิญเขานะ เราน่าจะต้องเป็นคนขอบคุณเขานะ“ แล้วทางเขาก็ควรต้องตอบว่า ยินดีนะครับ อะไรแบบนี้ แต่นี่เขาพูดว่า ขอบคุณที่นึกถึง ทำให้รู้สึกว่าการที่เราเชิญ ก็เป็นเรื่องน่ายินดีสำหรับเขาเหมือนกัน
การทำให้คนอื่นรู้สึกดีเป็นหนึ่งในสกิลของคนที่มีคนรักคนชอบมากมาย บางครั้งไม่แปลกใจเลยว่าทำไมบางคนถึงมีคนชื่นชมจำนวนมาก มันไม่ใช่แค่สิ่งที่เขาทำ แต่เป็นสิ่งที่เขาคิดด้วย ..
คิดถึงผู้อื่น
คิดว่าคนอื่นจะคิดอย่างไร และควรจะตอบกลับอย่างไร
ความสัมพันธ์ที่ดีเริ่มต้นจากเรื่องแบบนี้ ไม่ใช่นึกถึงแต่ตัวเอง ไม่ได้มองว่าฉันอยู่บนหอคอยงาช้างนะ เธอต้องมาขอร้อง อ้อนวอนให้ฉันทำ เพราะฉันเป็นผู้ยิ่งใหญ่
แต่ความสัมพันธ์ที่ดีเกิดจากมองตัวเองในมุมของคนอื่น และเข้าใจว่าผู้อื่นรู้สึกอย่างไร
ความจริงผมได้รับคำตอบจากการเชิญ speaker หลากหลายรูปแบบมาก เช่น ดีใจที่ได้กับมาเวที CTC อีกครั้ง, นึกถึงเวทีนี้, ขอบคุณที่ให้พี่มีส่วนร่วม
แต่ไม่ว่าคำตอบจะเป็นอย่างไร มันคือคำตอบที่นึกถึงผู้สนทนามากกว่าตัวเอง
จากนั้นเวลามีคนมาเชิญผมไปบรรยายที่ไหน ผมก็จะตอบกลับไปด้วยคำว่า “ขอบคุณที่นึกถึง”
และนี่เป็นอีกหนึ่ง “ความคิด” ที่สร้างคนเหล่านี้ เป็นอีกหนึ่งบทเรียน “ความคิดสร้างฉัน”
แล้วแวะมาอ่านกันอีกบ่อย ๆ นะครับ ผมจะเขียนทุกสัปดาห์..
สำหรับคนที่อ่านมาถึงตรงนี้..
ขอบคุณที่นึกถึงกันนะครับ :D